27 มิ.ย. 2555

รพ.สต.กระแสบนให้บริการวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เร็วๆนี้


  1. ทำไมต้องให้วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ เชื้อไข้หวัดใหญ่สามารถติดต่อโดยทางน้ำลายและเสมหะ[airborn droplet]ผู้ป่วยส่วนใหญ่หายเองใน2-3วันบางส่วนต้องนอนโรงพยาบาลและเสียวชีวิตโดยเฉพาะผู้สูงอายุอาการของไข้หวัดใหญ่ ไขหนาวสั่น้ เจ็บคอ ไอปวดศีรษะปวดตามกล้ามเนื้อ
  2. ทำไมต้องฉีดทุกปี 1.เพราะเชื้อมีการเปลี่ยนแปลงทุกปีดังนั้นการผลิตวัคซีนจึงมีการเปลี่ยนแปลงทุกปีเพื่อให้ครอบคลุมเชื้อที่เป็นสาเหตุ 2.ภูมิคุ้มกันที่เกิดจะเฉพาะเชื้อที่ทำให้เกิดโรคเท่านั้น 3.หลังฉีด2สัปดาห์จึงเกิดภูมิต้านทานโรคและอยู่ได้1ปี หลังจากนั้นหากได้เชื้อตัวเดิมก็สามารถป่วยเป็นโรคได้        
  3. ผลข้างเคียงของวัคซีน    อาการบริเวณที่ฉีด เจ็บบริเวณที่ฉีดซึ่งไม่มาก และจะหายใน 2 วัน อาการทั่วๆไปจะมีไข้ ปวดตามตัวหลังจากฉีด 6-12 ชั่วโมงและอยู่ได้นาน 1-2 วัน บางรายอาจจะมีผื่นลมพิษริมฝีปากบวม
  4. วัคซีนไขหวัดใหญ่ชนิดฉีด   
    วัคซีนชนิดฉีดนี้เป็นวัคซีนที่เตรียมจากเชื้อโรคที่ตายแล้ว
    อายุขนาดจำนวนครั้งตำแหน่งที่ฉีด
    6-35 เดือน0.25 มล.2 ครั้งห่างกัน 1 เดือนกล้ามเนื้อต้นขา
    3-8 ปี0.5 มล.2 ครั้งห่างกัน 1 เดือนกล้ามเนื้อหน้าขา
    มากกว่า 8 ปี0.5 มล.1 ครั้งกล้ามเนื้อไหล่
                                                                     
    ขอขอบคุณข้อมูลจาก  http://www.siamhealth.net    
  5. ใครควรได้รับวัคซีน ไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีนนี้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นประจำ ควรจะฉีดในผู้ป่วยที่เสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อนของโรคไข้หวัดใหญ่  
    • ผู้ใหญ่อายุเกิน65ปี
    • เด็กอายุ 6-23 เดือน
    • ผู้ที่อาศัยในสถานพักฟื้น สถานสงเคราะห์คนชรา
    • ผู้ป่วยโรคเรื้อรังเช่น เบาหวาน โรคหัวใจ โรคไต โรคปอด โรคตับ โรคเลือด โรคหอบหืด
    • ผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น โรคเอดส์ ผู้ป่วยที่ได้รับยา steroid ผู้ป่วยรังศีรักษาหรือเคมีบำบัด
    • เด็ก6เดือนที่ได้รับ aspirineในการรักษาโรค[ถ้าได้รับเชื้อไข้หวัดใหญ่อาจทำให้เกิด [Reye Syndrome]
    • หญิงตั้งครรภ์3เดือนขึ้นไปในขณะที่มีการระบาดของโรค
    • เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลที่ต้องสัมผัสโรค
    • เจ้าหน้าที่ที่บริการสังคม
    • นักท่องเที่ยว
    • นักเรียนหรือนักศึกษาเพื่อป้องกันการระบาด
    • บุคคลที่ต้องการฉีด
                       

ไม่มีความคิดเห็น: